หนุ่มบุกแทงรปภ.คาป้อม เหตุเพราะเงิน 20 บาท

สมัยนี้บอกเลยไม่มีอะไรแน่นอน ขนาดเงิน 20 บาทยังทำให้คนตายได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่สน.ประเวศ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.พงศ์กิตติ์ พินิจลิขิตศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.เวนิด ตอสกุล สว.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง สว.สส.สน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายอนัสตนันท์ หรือตุ้ย อุจฉกรรณ์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่จ.74/2560 ลงวันที่ 25 มกราคม 60 นายทรงเกียรติ หรือเอ็ม อุจฉกรรณ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.75/2560 ลงวันที่ 28 มกราคม 2560 และนายจักรพงษ์ หรือสาม ปันโย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.88/2560 ลงวันที่ 28 มกราคม 2560

พร้อมของกลางชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทแรงเจอร์ อินเวสดิเกชั่น จำกัด 1 ชุด เสื้อยืดคอปก สีน้ำเงิน 1 ตัว อาวุธมีด 1 เล่ม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 5 กฮ 1287 กรุงเทพมหานคร และหมวกกันน็อค 1 ใบ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านเศรษฐสิริ ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. แทงกันจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ

ที่เกิดเหตุพบเพียงพยานก่อนเล่าเหตุการณ์ว่านายอนัสตนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านดังกล่าวได้ยกพวกรวม 3 คน เข้ามารุมทำร้ายร่างกายนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ จนได้รับบาดเจ็บที่แขน ก่อนหนึ่งในผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่แผ่นหลังของนายอุสมาน เละนิ อายุ 26 ปี จนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส จากนั้นพลเมืองดีได้เร่งนำตัวส่งรพ.วิภาราม แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนร้ายรวม 3 ราย ขณะลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจนจึงนำไปสู่การออกหมายจับและกดดันตัวผู้ต้องหาจนกระทั่งทั้งหมดเข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา

ด้านนายอนัสตนันท์ รับสารภาพว่า โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติจู่ๆเกิดหิวข้าวขึ้นมาแต่ไม่มีเงินเพียงพอจึงตัดสินใจไปขอยืมเงินมาจากหัวหน้ารักษาความปลอดภัยจำนวน 20 บาท แต่หัวหน้ากลับยื่นธนบัตรฉบับละ 100 บาท มาให้แทนเพราะไม่มีธนบัตรมูลค่า 20 บาท พร้อมทั้งบอกว่าส่วนที่เหลืออีก 80 บาท ให้นำไปคืนนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ เนื่องจากติดเงินไว้อยู่เช่นกัน

จากนั้นนายอนัสตนันท์ จึงปั่นจักรยานไปซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างในราคา 40 บาท ก่อนนำเงินกลับมาคืนนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ เพียงแค่ 60 บาท จนนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ เกิดความไม่พอใจพร้อมทั้งด่าทอไปต่างๆนานา และบอกว่าให้นำอาหารไปคืนที่ร้านเพื่อนำเงินมูลค่า 20 บาท ที่หัวหน้าเคยยืมไปมาใช้หนี้หากไม่นำเงินมาคืนก็มาต่อยกัน จากนั้นตนจึงปั่นจักรยานกลับบ้านพักไปเพื่อนำเงินที่เหลือมาคืน

นายอนัสตนันท์ กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นนายทรงเกียรติ ซึ่งเป็นน้องชาย และนายจักรพงษ์ เพื่อนของน้องชายอยู่ที่บ้านพักพอดี ตนจึงบอกว่ามีเรื่องอยากจะตามก็ตามมา ก่อนตนจะปั่นจักรยานกลับมาที่ป้อมรักษาความปลอดภัย เมื่อผ่านไปได้สักพักตนเห็นนายจักรพงษ์ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาโดยมีนายทรงเกียรติ นั่งซ้อนท้าย

จากนั้นทั้งคู่ได้วิ่งลงมาจากรถก่อนนายทรงเกียรติ จะใช้ท่อนไม้เข้าไปฟาดนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ 1 ครั้ง แต่สามารถหลบได้ ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ภายในป้อมพร้อมกับนายอุสมาน จึงตัดสินใจใช้อาวุธมีดพกสั้นที่ติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวขณะปฎิบัติหน้าที่แทงเข้าไปที่กลางแผ่นหลังจนมีดหักคาก่อนพวกตนจะพากันขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนสาเหตุที่ตนแทงนายอุสมาน นั้นเนื่องจากเกิดความโกรธแค้นที่ร่วมกับนายอากบาร์ ดาโอ๊ะ ด่าทอตนเรื่องเงินเพียงแค่ 20 บาท

" ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บมาก่อน ตนขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากโมโหหิวและเกิดจากอารมณ์เพียงชั่ววูบขอให้กรณีของตนเป็นตัวอย่าง อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนก่อนจะทำอะไรลงไปให้คิดทบทวนให้ดีก่อนเพราะอาจสายเกินไปเหมือนกรณีของตน" นายอนัสตนันท์ กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยไม่เกิดเหตุรุนแรงแม้แต่อย่างใด