ข่าวทั่วไทย
ใครอยากเป็นแอร์!! แชร์เก็บใว้เลย รีวิวสมัครแอร์ Emirates Airlines และ China Airlines
02:26สำหรับสาวๆที่ต้องการทำงานสาบการบิน เกี่ยวกับแอร์ หรือลูกเรือนั้นเอง แต่ยังหาแนวทางไม่ได้ จะไปยังไงดีสมัครทางไหน เอายังไง นี้คือแนวทางในการสมัครแอร์ การแต่งกาย การเริมต้น การตอบคำถามการเตรียมตัวทุกอย่างที่จะเป็นแอร์ เรืองราวนี้เป็นกระทู้มาจาก คุณหมิว สมาชิกพันทิปได้มาแชร์ประสบการณ์เรื่องราวของตนเองในการ สมัครเป็นแอร์ จากการเริ่มต้นทุกอย่างของการเตรียมตัวในการเป็นแอร์
loading...
ก่อนอื่นต้องแนะนำชื่อเจ้าของกระทู้ก่อนละกันนะคะ เจ้าของกระทู้ชื่อ คุณหมิว อายุ 23 ปี เขาได้เล่าว่า ไปสมัคร EK 3ครั้ง Qatar 1 ครั้ง และ China Airlines 1ครั้ง รวม 5 ครั้ง ตอนนี้รอ EK เรียกตัว ได้เมล Oh hold ฉันต้องรออีกนานแค่ไหน ตอนนี้ก็ 10 สัปดาห์แล้วที่รอ อะไรจะนานป่านนั้น เนื่องจาก Training courses are not available และช่วงนี้ EK ก็มีการฟรีซการจ้างงานอีก ลูกเรือในอนาคตต้องอดทนรอต่อไป อีกไม่นาน มันจะกลับมาปังเหมือนเดิม ระหว่างรอ ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ได้ฟังกันค่ะ
ก่อนเข้าเรื่องเรามาดู ยูนิฟอร์มกันก่อนค่ะ บางคนอาจจะเคยเห็นกันบ้างแล้ว
ของเอมิเรตส์ จะต้องปากแดง หมวกแดง มีความหรูหรามากๆ
ส่วนลูกเรือ China Airlines ยูนิฟอร์มน่ารักมากค่ะ แบ๊วๆกันไปเลย
ไปฟังเรื่องเล่า ในการสอบแอร์ของเขากันเลยคะ
สายการบินแรกขอเริ่มด้วย China Airlines ก่อนนะคะ เพราติดสายนี้ก่อน
China Airlines 3 – 6 October, 2016 สำหรับ China Airlines หมิวตัดสินใจสละสิทธิ์ เพราะอยากได้ EK มากๆ เลยยอมตัดสินใจที่จะไม่เอา ตอนนี้เพื่อนๆก็พากันเทรนเสร็จแล้ว จนติดปีกไปบินอย่างเป็นทางการ แอบอิจฉาเบาๆ China Airlines หรือ CI เป็นสายการบินของไต้หวัน มาดูกันว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร และขั้นตอนเป็นแบบไหน
Grooming ต้องเป็นแบบใสๆ (ไสยๆ) ต้องใส่เสื้อสีขาวเท่านั้น และกระโปรงสีดำยาวเท่าเข่า ห้ามเหนือเข่านะ รองเท้าส้นสูงสีดำ แต่งหน้าแบบเบาๆ ปากชมพู ปากแดงก็ได้ แต่ส่วนใหญ่สีชมพู ใครมั่นใจสีอะไรก็ทาวนไปค่ะ อายแชโดว์ไม่ควรหนัก เน้นเบาๆ ธรรมชาติ(ลงโทษ) อายไลน์เนอร์บางๆ ปัดแก้มอ่อนๆ คอนทัวร์อย่าหนักมือ ทรงผมมวยต่ำ ควรแสกข้าง แสกกลางมันจะให้ลุคที่มั่นหน้าเกินไป เดี๋ยวกรรมการจะไม่ชอบเอาได้ เขาชอบลุคที่ดูเบาๆ สบายตา ไม่ควรดูมั่นหน้ามั่นใจเกินไป สายการบินนี้ ส่วนใหญ่คนที่ผ่านจะมีผิวที่ค่อนข้างขาว คนไต้หวันก็ต้องแบบนี้แหละ แต่ผิวเข้มก็อย่าแคร์ ไปลองดู
หมิวแต่งประมาณนี้ค่ะ
1.เขาจะเรียกตัวตามเวลาที่นัดไปเป็นกลุ่ม เข้าแถว และเอื้อมแตะแบบชูมือขึ้นทั้งสองข้าง ห้ามเขย่ง หันหลังชนกำแพง
2. ส่งเอกสารที่เขาขอ ย้ำเอาตัวจริงใบด้วยทุกๆอย่าง สำเนาทะเบียนบ้าน คะแนนโทอิค และอื่นๆ เอาทั้งสำเนา และตัวจริง ถึงแม้เขาไม่ได้สั่ง แต่ตอนตรวจเอกสาร เขาจะถามหา ด่านนี้มีคนกลับบ้านไปหลายคนเหมือนกัน
3. ไปนั่งตามเก้าอี้ที่เขาจัดไว้ให้ เรียงตามลำดับ แถวละ 5 คน เพราะเวลาเดินเข้าห้อง จะได้ไปพร้อมกัน 5 คน ก่อนจะเข้าห้องเย็น ซึ่งเป็นห้องที่กรรมการรอดูตัวเรา จะมีพี่ๆซึ่งเป็นลูกเรือมาทำหน้าที่ถ่ายรูปเราทีละคน เพื่อไว้ให้กรรมการตัดสินใจด้วย เพราะกรรมการอาจจะจำหน้าเราไม่ได้ตอนเรานำเสนอตัว
4. ขั้นนี้ พี่ๆลูกเรือจะให้เรายืนเข้าแถว 5คน เดินเข้าไปตามคิวติดๆกันตามลูกศรที่กำหนดให้เดิน เดินรอบๆห้องโถงหนึ่งครั้ง โดยในห้อง มีกรรมการทั้งหมด 5 คน นั่งรอเราและจะคอยถามคำถามเราต่างๆ และให้คะแนน กรรมการมีทั้งไทยและคนไต้หวัน
5. พอเดินเข้าห้องเรียบร้อย กล่าวสวัสดีกรรมการพร้อมกัน และนำมือมาประสานด้านหน้า ยืนแบบถ่ายชุดสมัครแอร์เอียงๆหน่อย จากนั้น กรรมการจะเรียกให้แนะนำตัวทีล่ะคน จุดนี้ ต้องขายตัวเองให้ได้มากที่สุด ยิ้มให้เยอะ มองตากรรมการ กวาดตามองตากรรมการอย่างอบอุ่นเสมอ พอถึงคิวเราแนะนำตัว ก็แนะนำไปอย่างเป็นธรรมชาติ ใครพูดจีนได้ ก็ใส่เต็มที่ แนะนำแบบกระชับ ไม่ควรเกิน 25-30 วินาที พอทุกคนแนะนำตัวเสร็จ กรรมการจะสุ่มถามคำถามทั่วๆไป ทุกคนจะโดนถาม
ตัวอย่างคำถาม
What do you know about China Airlines?
What kind of customers would you like to serve?
Why China Airlines?
What is the most important thing for the customers as cabin crew?
ถ้าใครเคยทำงานเกี่ยวกับการบิน เขาก็ถามเกี่ยวกับการบิน
6.เมื่อตอบคำถามเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาจากห้อง สวยๆเหมือนตอนเดินเข้ามา และรอผลประมาณ 5นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราย้ายไปที่ห้องประกาศผล แล้วเขาจะบอกผลทันที สำหรับคนที่ไม่ผ่าน ก็กลับบ้านไปทันที จากนั้นพี่ๆเขาก็จะบอกให้คนที่เหลือเตรียมตัวสำหรับวันถัดไปยังไง และก็กลับบ้าน
สำหรับวันต่อมา วันที่สอง ทำเหมือนเดิมทุกอย่างเหมือนกับวันแรก แต่การประกาศผล จะไม่ประกาศทันที เขาจะส่งอีเมลมาภายในบ่ายสามโมงของวันถัดไป ถ้าผ่าน จะได้อีเมลนัดตัวอีกรอบ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้เมลอะไรทั้งนั้น
วันสุดท้าย พี่ๆจะมาสัมมนาเรา บอกถึงสิทธิประโยชน์ เงินเดือน ชีวิตลูกเรือ ชีวิตตอนเทรน สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไปไต้หวัน สัญญาต่างๆ ระหว่างเล่าเรื่อง ก็จะมีพี่ๆตำรวจมาตรวจประวัติอาชญากรไปด้วย เสร็จแล้วก็กลับบ้าน หมดแล้วค่าสำหรับสายการบินนี้
สายการบอนที่2 Emirates (Kuala Lumpur) 7 – 8 November, 2016
มาถึงสายการบินตะวันออกกลางบ้าง Emirates หรือ EK สายการบินนี้คือความฝันสูงสุด ถึงได้กล้าทิ้ง CA ทุ่มเทเป็นอย่างมาก หมิวได้สมัครออนไลน์ไว้ก่อน เพราะรอบที่หมิวไป เป็นรอบ Invitation only จัดที่ Kuala Lumpur สิ่งที่หน้าแปลกใจคือ ถึงจะจัดที่มาเลเซีย แต่คนไทยได้ Invitation เยอะมากกกก มีผู้สมัครที่ถูกเชิญประมาณ 230 คน ถึง Final Interview 14คน อ่ะเข้าเรื่อง มาดูขั้นตอน และเทคนิคต่างๆกันค่ะ
Grooming สำหรับสายนี้ การแต่งหน้า เน้นการแต่งหน้าที่ค่อนข้างชัดเจน เผยความเป็นตัวเอง ทาปากได้ทั้งแดงและชมพู ไม่จำเป็นต้องแดง บางคนหน้าไม่เข้ากับสีแดง ไม่แนะนำให้ทานะคะ เปลือกตา ทาจัดเต็มได้ คัดเบ้า แต่อย่ามาสโมคกี้อายนะคะ มันจะดูไปเที่ยวกลางคืนเกินไป คิ้วขอแบบปังๆยิ่งดีค่ะ คอนทัวร์หน้าได้ชัดเจนเพื่อความคมของหน้า ห้ามลืมอายไลน์เนอร์นะคะ ที่สำคัญ อย่าลืมวาดปากด้วยดินสอเขียนขอบปากเพื่อความปัง ต่อมาว่าด้วยทรงผม สายนี้จะมวยต่ำ มวยสูง แสกกลาง แสกข้าง รวบหางม้าและม้วนปลายผมให้สวยงาม หรือมวยผม ก็ได้ทั้งนั้น คิดว่าทรงไหนเข้ากับเรา ก็ทำได้หมดค่ะ แต่ห้ามปล่อยนะคะ ตุ้มหูมุก นาฬิกาสายหนังสีดำ หรือแบบสแตนเลสทองหรือเงินก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่อย่าแฟชั่นจ๋า เขาชอบแบบ Conservative ค่ะ
วันแรกค่ะ
วันสัมภาษณ์
1. CV drop off ขั้นตอนนี้ จัดเป็นขั้นตอนที่หินที่สุด ขั้นมองหน้า 3วิ ก็ตัดสินชีวิตเราได้ ขั้นตอนนี้ กรรมการจะให้เข้าแถวไปส่งเรซูเม่ รูปภาพ และแบบฟอร์มกรอกA5 หน้าที่ของเรา เมื่อกรรมการพูดว่า next เราก็เดินไปหากรรมการด้วยความมั่นใจ วิธีผ่านด่านนี้ ยิ้มอ่อนๆก่อนกรรมการจะเรียกกับเพื่อนรอบข้าง ถ้ากรรมการหันมามองเราเมื่อไหร่ กรรมการต้องเห็นรอยยิ้มจากอ่อนๆ เป็นรอยยิ้มที่สดใส ต้อนรับแขก และมองตากรรมการ eye contact สำคัญมากถึงมาที่สุด ยิ้มไป มองตากรรมการไป จากนั้นเดินเข้าไปหากรรมการ และ Say hiก่อน อย่าให้กรรมการทักก่อน พอเราทักทาย จากนั้นก็ Break the ice โดยการถามสารทุกข์สุขดิบ How are you? How was your night? How do you do? จากนั้น ยื่นเรซูเม่ให้กรรมการแบบโปรเฟสชั่นนัล พร้อมกับผายมือไปที่เรซูเม่เมื่อกรรมการรับจากมือเรา ผายไปที่ชื่อของเราในเรซูเม่ แล้วพูดว่า Here is my name, mam. และก็พูดชื่อเราออกไปด้วยความมั่นใจ และยิ้มเสมอ ถ้ากรรมการเงยหน้าขึ้นมามองเรา เขาต้องเจอรอยยิ้ม และดวงตาของเราเสมอ จากนั้นก็ยืนประสานมือรอกรรมการถามคำถาม ตอนตอบคำถาม ใช้ภาษามือ nonverbal language ด้วย อย่าแข็งทื่อเป็นหิน บางครั้งกรรมการอาจจะไม่ถาม และอาจจะ Say thank you มาให้เราทันที เพราจำนวนคนมันเยอะมาก เราก็บอกกรรมการไปว่า Thank you and I hope to see you again. ยิ้มปิดท้ายอีกรอบ และเดินกลับไปเอาของ และออกจากห้อง ไม่ควรหันไปมองกรรมการ พูดเสร็จแล้วก็เดินกลับออกไปสวยๆ ช่วงนี้แหละ กรรมการจะแอบมองดูท่าทางการเดินของเรา ดูสรีระ ดูโดยรวม ตอนนี้ต้องรีบขายตัวเอง เดินสวยๆไปค่ะ
ระหว่างรอผล
ตอนผลออก ลุ้นมากกกกก ต้องคอยมองหาชื่อตัวเอง ฟินมากตอนเห็นเชื่อตัวเอง
2. Introduce your friend จาก 230คน เหลือ 79 คน รอบนี้ปกติจะเป็น Group discussion 1 แต่กรรมการนึกอยากจะเปลี่ยนใจ เอาเป็นแนะนำเพื่อนแทน เจอแบบนี้ บางคนอาจจะไปไม่ถูก เพราะไม่ค่อยมีคนมารีวิวขั้นตอนนี้ไว้ ขั้นนี้ไม่ยากเกินไปค่ะ เน้นความเป็นธรรมชาติ และอารมณ์ขัน กรรมการจะเรียกไปประมาณครั้งล่ะ 20คน ให้นั่งเป็นวงกลม จากนั้น เขาจะให้เวลาประมาณ 5นาที ทำความรู้จักเพื่อนใหม่เราที่นั่งข้างๆกัน จากนั้นกรรมการจะเรียกที่ละคู่แนะนำบัดดี้ตัวเอง เราแนะนำตัวเพื่อน เพื่อนแนะนำตัวเราเป็นคู่ๆ วิธีการ เราไม่จำเป็นต้องแนะนำว่าเพื่อนชอบอะไร เพื่อนมีสัตว์เลี้ยงอะไร หรือเพื่อนมาจากไหน เพราะบางทีเราตื่นเต้น จำข้อมูลที่เพื่อนบอกไม่ค่อยได้ หมิวขอแนะนำให้เราพูดถึงความรู้สึกที่ได้พบเพื่อนครั้งแรก บอกไปเลยว่าเพื่อนคนนี้คุยด้วยแล้วรู้สึกว่าเขาเฟรนลี่ หรือชอบการแต่งหน้าของเขามากๆ พูดถึงหนังภาพยนตร์ที่เขาชอบก็ได้ และก็ใส่ความตลกไปนิดนึง แค่นี้ก็ได้แล้วค่ะ ยิ้มเสมอตอนที่พูด และมองคนรอบๆกลุ่ม กวาดสายตาไปเรื่อย อย่ามองแต่กรรมการอย่างเดียว เชื่อหมิว แล้วจะรุ่ง(รึเปล่า)
ผ่านไปรอบต่อไปแค่ 29 คน หมิวเลขที่ 40 นะคะ
3.Group discussion จาก 79 เหลือ 29 คน ขั้นตอนนี้ มีคนรีวิวเยอะมาก กรรมการจะให้เข้ากลุ่ม ล่ะประมาณ 15คน ก่อนจะเริ่มการอภิปราย กรรมการจะให้เราดูกฎการแต่งกายและข้อห้ามการแต่งกาย ระหว่างนั้น กรรมการจะเรียกทีละคนให้ไปเช็ค Arm reach 212 cm เขย่งได้นิดหน่อย ถอดสูทได้ค่ะ ใครเอื้อมไม่ถึงก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ต้องออกจากห้องทันที จากนั้นกรรมการจะถามว่าเรามี birthmark หรือ scarตรงไหนรึเปล่า เราก็บอกกรรมการได้ ถ้ามันเล็กๆ ก็จริงใจบอกความจริงไปได้ กรรมการให้ผ่านนะคะ แต่ถ้าใหญ่ แผลเป็นดูหน้าเกลียด กลบคอนซีลเลอร์เลยค่ะ ไม่ต้องบอก ถ้ากลัวว่าบอกแล้วจะไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ แต่ถ้าได้เป็นลูกเรือ และไปตรวจสุขภาพที่ดูไบ แล้วหมอถามถึงแผลเป็นต่างๆ อันนี้ตัวใครตัวมันนะคะ พอเช็คเอื้อมแตะและรอยต่างๆบนผิว กรรมการจะให้เริ่มการทำกรุ๊ปดิสคัสชั่น เหตุการณ์ก็จะให้สมมุติว่าตัวเองเป็นผู้จัดการโรงแรม ผู้จัดการเรือทัวร์ หรือเจ้าของร้านรถเช่า แต่ล่ะกลุ่มก็จะได้หัวข้อไม่เหมือนกัน อย่างของหมิวได้เป็น Hotel manager เกิด booking error มีลูกค้าอยู่ 8แบบ แต่เราสามารถเลือกลูกค้าได้แค่ 2 แบบ เพื่อที่จะให้มาพักที่โรงแรม และต้องให้เหตุผลด้วยว่าทำไมเราถึงเลือกลูกค้ารายนี้ และทำไมถึงต้องปฎิเสธลูกค้าแต่ล่ะราย เราต้องปรึกษากับเพื่อนในกลุ่ม แนะนำให้พูดประมาณ 2-3 ครั้ง ไม่ควรแสดงความเห็นมากเกินไป เพราะระหว่างเราคุยกับเพื่อนในกลุ่ม กรรมการก็จะดูท่าทาง และคำพูดเราด้วย เมื่ออภิปรายในกลุ่มเสร็จ กรรมการจะถามว่าทุกคนเลือกใคร และไม่เลือกใคร เพราอะไร จากนั้น กรรมการจะเลือกคนกลุ่มประมาณ 6คน เพื่อให้มาทำ role play กรรมการจะแสดงเป็นลูกค้า คนที่ถูกเรียกจะเป็นผู้จัดการ ตอนนี้แหละหินมากกกก เราต้องใจเย็น Apologize ก่อน และพยายามเอาใจลูกค้า แต่อย่าเสนอสิทธิพิเศษต่างๆมากเกินไป อย่าทำเสียงแข็ง ห้ามทำตัวมั่นใจ ควรทำตัว Humble ให้เหมือนกับว่าเรากำลังขอโทษลูกค้าและง้อลูกค้าอยู่ ตอนอภิปราย ต้องรับฟังเพื่อนในกลุ่มเยอะ อย่าคิดว่าเราต้องเลือกลูกค้าคนนี้ไว้ และไม่ฟังความเห็นคนอื่น ทำตัวให้ flexible และจะได้ค่ะ
ผลออกแล้วค่ะ โอ้ย เพิ่งเคยเข้ารอบลึกขนาดนี้
ผ่านไปถึงไฟนอล บางคนตกสอบอังกฤษ เป็นอะไรที่เศร้ามากกกก
5. ทำแบบทดสอบในคอมพิวเตอร์ก่อนเที่ยงคืน ถึงจุดนี้เหนื่อยมากค่ะ เพราะขั้นตอนแรก ถึงขั้นตอนที่สี่ เริ่มตั้งแต่ 9:00 – 19:00 ร่างพังกันไปค่ะ สมองเริ่มเบลอ เพราะใช้สมองทั้งวัน พอก่อนเที่ยงคืนทำแบบทดสอบอีก ขั้นนี้เลือกอะไรก็ได้ค่ะ โชว์ความเป็นตัวตนเรา ไม่ต้องคิดมากนะคะ
หก Final Interview จาก 17 เหลือ 14 คน สัมภาษณ์วันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 กรรมการให้ไปสัมภาษณ์ที่ออฟฟิศของเอมิเรตส์ อยู่ที่ตึกข้างๆ Pavillion ถูกนัดไปตอนบ่ายโมง แต่แนะนำให้ไปถึงก่อนหนึ่งชั่วโมงค่ะ วันนี้ก็รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าในที่สุดเราก็มาถึงจุดนี้ กรรมการชื่อมาริน่าค่ะ ค่อนข้างหน้าดุ แต่ใจดี คำถามส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวกับกับ customer service ค่ะ
ออฟฟิศเอมิเรตส์ที่กัวลาลัมเปอร์ค่ะ
มาดูคำถามกัน
Introduce yourself.
Name the time you deal with customers?
Name the time you deal with a difficult case and how did you deal with it?
What’s the big change in your life?
How do you do when you are stressed?
วิธีตอบ ตอบเป็นสเต็ป เริ่มจาก เหตุการณ์ หน้าที่ แอ็คชั่นที่ทำลงไป และผลลัพธ์ ที่ออกมา ระหว่างตอบอย่าทำหน้าเครียด ถ้าเครียดต้องหาอะไรมาสร้างรอยยิ้มให้ได้ทันที ที่สำคัญ ควรเลือกเรื่องที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม การปรับตัวต่างๆ จะช่วยได้มากๆค่ะ พูดไปยิ้มไป แต่ไม่ต้องยิ้มแบบคนบ้านะคะ อมยิ้มเสมอ
ตัวอย่างคำตอบแบบไม่ซีเรียสมาก แต่ก็ถือว่าโอเค แอบตลกด้วยแต่ก็มีความจริงจัง
Recruiter: How do you do when you get stressed?
Miw: I normally go to check horoscope with the fortuneteller. Haha.
Recruiter: Why don’t you share your stress with your friends?
Miw: I think sometimes we cannot share that issue to friends because they might not understand, for example, work issue. So I’d rather go for fortunetellers. Moreover, they always advise me to do good things. They never tell me to be bad. I think it’s a good idea.
หลังจากนั้นก็ลากรรมการ พร้อมทิ้งท้ายว่าขอบคุณเขามากๆ และหวังว่าจะได้เจออีกครั้งค่ะ
ตอนนี้ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าๆแล้ว รอด้วยความหวังทุกวันว่าจะมีข่าวดีมา เพื่อนๆบางคนก็ได้ unsuccessful email เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน จาก 14 คน ได้ unsuccessful email 8 คน อีก 7 คน บางคนก็ได้ On hold email มาแล้วช่วงต้นเดือนมกราคม บางคนก็ยัง ถึงยังไง หมิวก็ขอให้ทุกคนมีความหวังไว้เสมอ เพราะความหวัง ความฝัน คือจุดเริ่มต้นในการทำอะไรซักอย่างจนกระทั้งประสบความสำเร็จ อะไรจะเกิดขึ้น ก็ขอให้เข้มแข็งไว้ค่ะ แล้ววันของเราจะมาถึง สู้ๆค่ะ
ว้าว อ่านเรื่องราวของคุณหมิวแล้ว ก็ยากเหมือนกันนะคะ กว่าจะผ่านไปแต่ละขั้นตอน แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะไปสอบนะคะ สู้ๆนะคะ
เรียบเรียงโดย: kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มา: สมาชิกพันทิป
Cr:http://kaijeaw.com/
loading...
0 ความคิดเห็น