ครูสาว เปิดใจน้ำตานอง ผิดหรือที่เป็นกะเทย หลังถูก คณบดีเหยียดสมเพชชีวิต...

ครูสาวประเภทสอง เปิดใจหลังโดนคณบดีพูดเหยียดเพศกลางห้องอบรม ตัดพ้อผิดที่เกิดมาเป็นกะเทยไม่เหมาะทำอาชีพครู ชาวเน็ตส่งกำลังใจสู้ๆ เปรยไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ กะเทยก็เช่นกัน...

กรณีโลกออนไลน์แห่เข้าไปให้กำลังใจครูสาวประเภทสองรายหนึ่ง หลังเจ้าตัวได้โพสต์แชร์เรื่องราว
อ้างว่า โดนคณบดีฯ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน พูดเหยียดเรื่องเพศกลางที่ประชุม ด้วยวาจาไม่สุภาพ สร้างความอับอายให้แก่เธอเป็นอย่างมาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "นายดุลยพัชร์ มังครัตน์" อายุ 25 ปี ครูสาวประเภทสองคนดังกล่าว เปิดเผยผ่าน "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า อันดับแรกตนต้องขอโทษที่ตนแต่งตัวไม่ตรงตามเพศสภาพ จึงทำให้ถูกมองว่าไม่ให้เกียรติสถาบัน โดยเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขณะตนกำลังเข้าอบรมมาตรฐานวิชาชีพครู รายวิชาวินัยข้าราชการครู รวมกับผู้ร่วมอบรมอีก 12 คน โดยมีคณบดีท่านหนึ่งเป็นผู้สอน เมื่อตนถูกขานชื่อและคำนำหน้าเป็น "นาย" คณบดีได้สอบถามว่า "เธอเป็นผู้ชายทำไมแต่งตัวเป็นผู้หญิง ใส่กระโปรงและรองเท้าผู้หญิง ทำมาหรือยัง" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ค่ะ ทำมาหมดแล้วค่ะ"

เพราะอยากให้เลิกถาม ตนรู้สึกแย่มากอยากจะร้องไห้ เพียงแต่กดน้ำตาไหลไม่ให้ไหลออกมา คณบดีคนดังกล่าวยังพูดด้วยถ้อยคำว่า

"พักกลางวันจะให้เพื่อน 2 คน จับแขนขา ดูสิว่าผ่าแล้ว ยังมี_อยู่ไหม"

พร้อมกับย้ำว่าคงไม่มีผอ.รร.ไหน รับตนเข้าทำงานอาชีพครู...

"หนูขอโทษที่เกิดมาเป็นกะเทย ทำให้คณบดีไม่อยากสอน นี่คือคำพูดของคนที่เป็นถึงคณบดี เธอมี_อยู่ใช่ไหมเดี๋ยวจะให้เพื่อนจับเธอไว้ แล้วจะคนถอดดูว่าเธอมี_หรือมี_ และยังบอกให้คนในห้องที่เป็นทอม มาทำอะไรกับหนู พูดว่าเอาอะไรไปยัดใส่นม โธ่ชีวิตเธอ เธอจะไปสอบที่ไหนเขาก็ไม่เอาเธอหรอก เพื่อนทั้ง 12 คนมองมาที่เรา น้ำตาแทบจะไหลในห้อง ฟ้าชั่งใจร้ายเหลือเกินที่ให้เราเกิดมาเป็นกะเทยอาชีพครูคงไม่เหมาะกับกะเทย แต่หนูจะจดจำไว้ว่า ครั้งหนึ่งหนูเคยพาชีวิตมาพบกับบุคคลที่เป็นต้นแบบของนักศึกษาหลายๆ คน ที่เขาไม่ต้องการที่จะสอนกะเทย ผิดที่หนูเกิดมาเป็นแบบนี้ เกิดมาหนูเคยเจอแต่อาจารย์ที่คอยให้ความรัก ความอบอุ่น ครั้งนี้หนูรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่ามากเลย ท้อ พูดแล้วน้ำตาก็ไหล หนูไม่ได้มาเรียกร้องอะไรนะค่ะ คงเป็นแค่บางมุมในชีวิตที่หนูต้องพบเจอ หนูจะเรียกมันว่าอุปสรรค" นายดุลยพัชร์ ระบุ

ครูสาวประเภทสอง ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนสอนนักเรียนระดับชั้นประถมฯ และมัธยมฯ วิชานาฏศิลป์ ซึ่งพานักเรียนไปสร้างชื่อเสียงในระดับภาคอีสานได้รับรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันศิลปหัตถกรรม แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ในห้องเรียนที่ให้กำลังใจ ขอบคุณทุกคนๆ ที่รู้จักและไม่รู้จัก

"ดีใจหลายๆ ที่ยังมีคนฮักคนแพง"

จะเดินตามฝันต่อไป เพราะนิ้วทั้งห้าของคนเราไม่เท่ากันฉันใด ความสามรถของคนเราก็ไม่เท่ากันฉันนั้นบางสิ่งที่เขาขาดเราอาจมี บางสิ่งที่เขาดีเราอาจด้อย เกิดมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะเกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบกะเทยก็เช่นกันค่อยๆ ก้าวทีละก้าว ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะเป็นก้าวที่มั่นคง....