09.30 น. พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา รัชดาภิเษก เลขที่ 634/2560 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 ในข้อหา "หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,



 กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรืออื่นใดในความมุ่งหมายแก่รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร ม.116 พร้อมด้วยทนายได้ขึ้นรถมายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อนำส่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหา โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบช.ส.4 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผกก.2 รอให้การต้อนรับ
ขณะนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์พร้อมคณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพูดคุยเบื้องต้นกับพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ภายในห้องประชุมชิวปรีชา บก.ป. โดยได้แสดงหมายจับพร้อมทั้งแจ้งข้อหา จับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวภายหลังสอบปากคำพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส กว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ว่า จากการสอบปากคำพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ให้การรับในข้อเท็จจริง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยประเด็นซักถามพระสนิทวงศ์คือเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เช่นว่ามีบัญญัติไว้ในพระธรรมวินัยหรือไม่ ซึ่งพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ระบุว่าไม่มีบัญญัติในพุทธศาสนา แต่เป็นการแต่งตั้งขึ้นมาเอง และประเด็นความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของวัด ที่ได้รับคำยืนยันจากพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ว่ามีเพียง 197 ไร่ ส่วนอีกกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย ในส่วนของพระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 จังหวัดปทุมธานี ที่เดินทางมาที่ บก.ป.เมื่อช่วงเช้านั้นกำลังสอบปากคำอยู่ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ที่เดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยานเพื่อประกอบสำนวนคดีด้วย

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ตนยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เนื่องจากยังสอบปากคำไม่เสร็จสิ้น โดยหลังจากสอบปากคำและแจ้งข้อหาแล้วจะนำตัวพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อฝากขังต่อไป ทั้งนี้ ท้ายคำร้องสำนวน พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ต้องให้เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่ โดยหลังจากนี้ตำรวจ สภ.คลองหลวง จะมาอายัดตัวพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ไปสอบปากคำและรับทราบข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ซึ่งแยกเป็นอีกสำนวน ก่อนนำส่งศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ระหว่างนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชยพลเดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อชี้แจงเอกสารและให้ข้อมูลการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการของการผิดกฎพระพุทธศาสนาต่อไป

สำหรับขั้นตอน โดยหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น จะเชิญพระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะตำบลคลอง 4 ร่วมพิจารณา ว่าพฤติกรรมของพระสนิทวงศ์เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.สงฆ์หรือไม่ หากพบความผิดจะให้สละสมณเพศทันที

จากนั้นเวลา 13.10 น. ตำรวจนำตัวพระสนิทวงศ์ไปฝากขังที่ศาลอาญา

ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 6 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราวพระสนิทวงศ์

ศาลพิจารณาคำร้อง และหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้พระสนิทวงศ์ประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 4 แสนบาทโดยกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบและล่วงละเมิดกฎหมายของ แผ่นดินและห้ามมิให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล



Cr.matichon

เครดิต :

Cr:http://tnews.teenee.com/