จากกรณีที่ตำรวจจับกุมตัวนายทวีวงศ์ หรือนายกหมึก ทองยืน ผู้บงการสังหารน.ส.วีรญาภา หรือเปิ้ล งามวิลัย อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและแผน ของอบต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยเบื้องต้นนายทวีวงศ์ ซึ่งโดนจับที่ไร่แห่งหนึ่งที่จ.กาญจนุบรี สารภาพวางแผนสังหารเพราะโกรธแค้นที่ผู้ตายไปจดทะเบียนสมรสกับชายอื่น ทั้งที่ตัวเองยังส่งเสียอยู่นั้น




เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 17 มี.ค. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2.บก.ป พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กรกช ยงยืน ได้เดินทางเข้าพื้นที่จ.ชลบุรี เพื่อติดตามหาตัวนายสมชาย หรืออาจารย์ เจริญยิ่ง นายจีระพันธ์ หรือโจ เม่งกี่ คนรับงาน และนายธนชัย หรือใหญ่ เจริญยิ่ง ผู้ต้องหาในคดีนี้

เนื่องจากในรายงานการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายทวีวงศ์ ได้มาปรึกษากับนายจีระพันธ์ เพื่อต้องหาหามือปืนมาสังหารผู้ตาย โดยนายจีระพันธ์ได้แนะนำให้รู้จักกับนายสมชาย ซึ่งก็ถือว่านักเลงที่พอจะมีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น และตกลงรับงานราคาค่าจ้าง 2 แสนบาท พร้อมกับมอบโทรศัพท์มือถือให้นายทวีวงศ์ไว้ 1 เครื่อง บอกว่าจะมีผู้ติดต่อกลับมาในภายหลัง

จากนั้นทราบว่านายสมชายได้ติดต่อกับนายธนชัยให้เข้ามารับหน้าที่มือปืน มีค่าจ้าง 30,000 บาท ก่อนที่ผู้ใช้จ้างวานและตัวมือปืนจะนัดหมายกัน โดยวันเกิดเหตุนายทวีวงศ์ได้นัดหมายผู้ตายให้ออกมาพบ โดยมีนายธนชัยนั่งรถปิกอัพมาด้วย

เมื่อน.ส.วีรญาภา ขับรถเก๋งฮอนด้า มาจอดรอริมถนน ทั้งนายทวีวงศ์และนายธนชัยได้เข้าไปเจรจากับผู้ตายบนรถเก๋งฮอนด้า โดยนายทวีวงศ์นั่งเบาะหน้าด้านซ้าน ส่วนนายธนชัยนั่งเบาะหลัง

ในจังหวะที่ผู้ตายเผลอ นายธนชัยที่นั่งอยู่เบาะหลังก็ลงมือสังหารยิงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุแล้วทั้งสองก็เดินกลับมาขึ้นกระบะของนายทวีวงศ์แล้วขับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ทราบด้วยว่าจากจุดเกิดเหตุไปได้ไม่กี่กิโลเมตร นายธนชัยก็ลงกลางทาง ก่อนจะมีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ยังไม่ทราบสีและทะเบียนมารับตัวไป ส่วนนายทวีวงศ์ก็หลบหนี ก่อนจะไปจนมุมที่จ.กาญจนบุรี ส่วนผู้ต้องที่เหลืออยู่ระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้ มีรายงานการเข้าจับกุมนายทวีวงศ์ด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน กำลังตำรวจกองปราบปรามนำโดยพ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รองผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส พ.ต.ต.นฤทธิ์ ผูกจิตร และพ.ต.ต.ปกรณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เข้าตรวจค้นภายในไร่แห่งหนึ่ง ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อเข้าจับกุมนายทวีวงศ์

เป็นการเข้าตรวจค้นหลังจากที่ตำรวจสอบปากคำนายรักชาติ ทองยืน น้องชายนายทวีวงศ์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่อ.ท่าม่วง โดยนายรักชาติให้การว่า นายทวีวงศ์ได้มาขอความช่วยเหลือเพื่อให้หาที่พัก โดยขณะนั้นยังไม่รู้ว่าพี่ชายไปก่อคดีอะไรมา ด้วยความที่เป็นพี่น้องกันจึงให้นายทวีวงศ์ไปหลบอยู่ที่ไร่ในต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยพบว่าผู้ต้องหานั้นนอนพักอยู่ในกระท่อมเฝ้าไร่เพียงคนเดียวเท่านั้น

นายทวีวงศ์ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงน.ส.วีรญาดา แต่ยอมรับว่านายใหญ่เป็นยิง ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากความหึงหวงที่น.ส.วีรญาดาไปแต่งงานใหม่ เนื่องจากที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทุ่มเทเงินทองให้มาตลอด ทั้งบ้านทั้งรถยนต์ ภายหลังเมื่อรู้สึกว่าผู้ตายมีท่าทีจะตีตัวออกห่างไปมีผู้ชายใหม่ จึงเกิดความแค้น วางแผนให้นายโจ ลูกน้องไปให้จัดหามือปืน โดยติดต่อไปหาผู้รับงานราคา 200,000 บาท ก่อนวางแผนกันและนัดมือปืนมาลงมือสังหารดังกล่าว

นอกจากนี้นายทวีวงศ์ยังให้การด้วยว่า เรื่องทั้งหมดทำไปเพราะแค้นที่ผู้ตายพยายามตีจาก ตีตัวออกห่าง และหลังจากก่อเหตุสังหารแล้ว ตอนแรกตนก็ตั้งใจว่าจะฆ่าตัวตายตามไปด้วย แต่มาโดนตำรวจตามจับได้เสียก่อน

ที่สภ.คลองห้า พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1. ให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นตลอดทั้งคืน นายทวีวงศ์ยังให้การปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงน.ส.วรีญาภา แต่ยอมรับว่าได้ตามง้อน.ส.วีรญาภาจริง หลังจากการหย่ากันก็ยังส่งเงินเลี้ยงดูตลอด เพราะยังรักน.ส.วีรญาภาอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่พอมาทราบว่าน.ส.วีรญาภามีรักใหม่เป็นกำนันที่จ.ระยองและไปจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มี.ค. นายทวีวงศ์ได้โทรศัพท์หาน.ส.วีรญาภา เพื่อจะขอพูดคุยปรับความเข้าใจ และได้ว่าจ้างมือปืนชื่อใหญ่คนดังในพื้นที่ชลบุรีในราคา 2 แสนบาท


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ข่าวสด

Cr:http://tnews.teenee.com/