ธัมมชโยใกล้ถึงกุสลาธัมมา!!!“เปลว สีเงิน”ถามหา“พระพุทธชินวงศ์-พระเทพสุธี”ทำไมไม่ทำหน้าที่

พรุ่งนี้แล้วจะได้รู้ว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)จะคิดเห็นอย่างไรต่อกรณีพระธัมมชโย ที่นอกจากถูกถอดถอนจากสมณศักดิ์ด้วยความผิดในหลายคดีแล้ว...


พรุ่งนี้แล้วจะได้รู้ว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)จะคิดเห็นอย่างไรต่อกรณีพระธัมมชโย ที่นอกจากถูกถอดถอนจากสมณศักดิ์ด้วยความผิดในหลายคดีแล้ว แต่ยังปรากฏพฤติกรรมที่ผ่านมาขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคารพกฎหมาย หรือให้พูดชัดลงไปก็คือ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งบรรดาลูกศิษย์ทั้งพระและฆราวาส ฉะนั้นการประชุมของมส.จึงถูกจับตาจากสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในวันนี้เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์ นสพ.ไทยโพสต์เองก็ยังส่งสัญญาณไปยังมส.ผ่านบทความในวันนี้ด้วย โดยเนื้อหาเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามดังต่อไปนี้



loading...



เมื่อ 'ธัมมี่' ใกล้ถึง 'กุสลา ธัมมา'



ขอย้ำอีกครั้ง........รักจะบริโภคข่าวสารยุคไอที ต้องเข้าใจ ว่าไอทีนั้น ให้ความเร็วได้ แต่ให้ความถูกต้อง-แม่นยำในทันที-ทันใดไม่ได้! ฉะนั้น อ่านข่าวคราวระบบออนไลน์ ต้องแบ่งใจครึ่ง-ครึ่ง เนื่องจาก ความเร็ว จะพัดพา "ขยะข่าว" มาก่อน ซักพัก "เนื้อข่าว" ที่ยึดถือได้ จะค่อยๆ ตามมาทีหลัง! อย่างเรื่องพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" รัชกาลที่ ๙ หลายวันก่อน เห็นบางเจ้า พาดหัวข่าวออนไลน์ ระบุวันถวายพระเพลิงเป็นตุ-เป็นตะ ว่าวันนั้น-วันนี้ มีแต่พาดหัวข่าว.........อ่านๆ ก็งงอยู่เหมือนกัน ว่ากำหนดวันที่ว่านั้นมาจากไหน ใครเป็นคนพูด เพราะอ่านในเนื้อข่าวจนลูกตาแทบหลุด ก็ไม่เห็นมี นิมิตกันขึ้นเองโด่ๆ!?



จนกระทั่งเมื่อวาน (๘ มี.ค.๖๐) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกฯ ออกมาบอกนั่นแหละ ว่า........ "ตามที่มีกระแสข่าวว่า จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ในระหว่าง ๒๕-๓๐ ธ.ค.๖๐นั้น 'ไม่เป็นความจริง'!โดยในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีฯ เมื่อวันที่ ๑ มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นชอบช่วงเวลาการจัดงานพระราชพิธีดังกล่าว คือช่วงปลายเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการกราบบังคมทูล 'สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' เพื่อมีพระราชวินิจฉัย ดังนั้น ประชาชนจึงควรใช้วิจารณญาณ ไม่ส่งต่อข่าวสารที่อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อื่น"พรุ่งนี้แล้วจะได้รู้ว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)จะคิดเห็นอย่างไรต่อกรณีพระธัมมชโย ที่นอกจากถูกถอดถอนจากสมณศักดิ์ด้วยความผิดในหลายคดีแล้ว แต่ยังปรากฏพฤติกรรมที่ผ่านมาขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคารพกฎหมาย หรือให้พูดชัดลงไปก็คือ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งบรรดาลูกศิษย์ทั้งพระและฆราวาส ฉะนั้นการประชุมของมส.จึงถูกจับตาจากสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในวันนี้เปลว สีเงิน คอลัมนิสต์ นสพ.ไทยโพสต์เองก็ยังส่งสัญญาณไปยังมส.ผ่านบทความในวันนี้ด้วย โดยเนื้อหาเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามดังต่อไปนี้



เมื่อ 'ธัมมี่' ใกล้ถึง 'กุสลา ธัมมา'



ขอย้ำอีกครั้ง........รักจะบริโภคข่าวสารยุคไอที ต้องเข้าใจ ว่าไอทีนั้น ให้ความเร็วได้ แต่ให้ความถูกต้อง-แม่นยำในทันที-ทันใดไม่ได้! ฉะนั้น อ่านข่าวคราวระบบออนไลน์ ต้องแบ่งใจครึ่ง-ครึ่ง เนื่องจาก ความเร็ว จะพัดพา "ขยะข่าว" มาก่อน ซักพัก "เนื้อข่าว" ที่ยึดถือได้ จะค่อยๆ ตามมาทีหลัง! อย่างเรื่องพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" รัชกาลที่ ๙ หลายวันก่อน เห็นบางเจ้า พาดหัวข่าวออนไลน์ ระบุวันถวายพระเพลิงเป็นตุ-เป็นตะ ว่าวันนั้น-วันนี้ มีแต่พาดหัวข่าว.........อ่านๆ ก็งงอยู่เหมือนกัน ว่ากำหนดวันที่ว่านั้นมาจากไหน ใครเป็นคนพูด เพราะอ่านในเนื้อข่าวจนลูกตาแทบหลุด ก็ไม่เห็นมี นิมิตกันขึ้นเองโด่ๆ!?



จนกระทั่งเมื่อวาน (๘ มี.ค.๖๐) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกฯ ออกมาบอกนั่นแหละ ว่า........ "ตามที่มีกระแสข่าวว่า จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ในระหว่าง ๒๕-๓๐ ธ.ค.๖๐นั้น 'ไม่เป็นความจริง'!โดยในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีฯ เมื่อวันที่ ๑ มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นชอบช่วงเวลาการจัดงานพระราชพิธีดังกล่าว คือช่วงปลายเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการกราบบังคมทูล 'สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' เพื่อมีพระราชวินิจฉัย ดังนั้น ประชาชนจึงควรใช้วิจารณญาณ ไม่ส่งต่อข่าวสารที่อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อื่น" อืมมมม....มาช้า ดีกว่าไม่มีใครออกมาพูดให้เป็นกิจจะลักษณะเลย!ก็สรุปเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงตามกัน ตามที่พลโทสรรเสริญแถลงนี้นะ ไม่ใช่อะไรหรอก .......ถ้าไม่พูดให้เข้าใจตรงกัน เดี๋ยวพวก "คิดมาก" จะนำกำหนดวันออกพระเมรุตามข่าวปล่อยที่ว่าปลายเดือนธันวาไปผูกโยงกับโรดแมป เรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง ว่า "เลื่อนอีกแระ" ก็จะ "คันหัว" กันไปเปล่าๆ!



กลับมาคุยเรื่องผีบุญไชยบูลย์ เจ้าลัทธิธรรมกายต่อดีกว่า เมื่อดีเอสไอเดินตามเส้นเหลือง ก็เบาใจกันได้ว่า จากนี้ไป ดีเอสไอ "ไม่หลงทาง" แน่นอนแล้ว ส่วนจะพบตัวและได้ตัวไชยบูลย์ไปเข้าสู่กระบวนการกฎหมายหรือไม่นั้น นั่นเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่กรณีที่ "เดินถูกทาง" แล้ว ตรงนี้จะการันตี "บทจบ" ของผีบุญไชยบูลย์และลัทธิธรรมกาย ว่ายังไงๆ ก็ต้องจบนั่นคือ ไชยบูลย์ ในคราบพระ ก็แยกความผิดด้วยอาบัติตามพระธรรมวินัยไปให้ "ศาลสงฆ์" จัดการก่อน ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์



เมื่อศาลสงฆ์ตัดสินอย่างไรแล้ว จากนั้น.........ดีเอสไอ ก็รับไม้ต่อจากศาลสงฆ์ พิจารณาแล้วอนุวัตไปตามนั้น โดยมติศาลสงฆ์กับกฎหมายบ้านเมือง จะต้องไม่ขัดแย้งกันทางปฏิบัติ เราไม่ต้องเคารพไอ้พวกอลัชชี-ผีบุญ แต่การจะทำอะไร ต้องเคารพและให้ความนบนอบต่อ "เครื่องแบบพระ" จนกว่าจะลอก "จีวร" ออกจากร่างพวกโจรแฝงศาสนาก่อน พ้นจากคราบผ้าเหลือง เหลือแต่ตัวผีบุญล่อนจ้อน ทีนี้แหละ ..........จะทำไงตามกฎหมาย จะให้ "อยัมภทันตา" ขนาดไหน ก็เชิญตามสบาย! เห็นว่า ศุกร์ที่ ๑๐ มีนานี้ จะมีการประชุมร่วม ระหว่างรัฐบาลกับมหาเถรสมาคม โดย ผอ.สำนักพุทธ "พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" ทำหน้าที่ เลขาฯ มส. เท่าที่ฟัง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายพูด จะมอบให้รัฐมนตรี "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" ไปถวายรายงานต่อ มส. ว่ารัฐบาลกำจัดปลวกพระพุทธศาสนาไปแล้ว ด้วย ๓ มาตรการ คือ ๑.มาตรการทางกฎหมาย หัวหน้า คสช.ออกคำสั่งควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ๒.มาตรการทางปกครอง คือ การถอดสมณศักดิ์ "พระเทพญาณมหามุนี" และการขอให้พระซึ่งปกครองกันเองช่วยเรื่องสั่งห้าม หรือจัดการโดยไม่ต้องอาศัยกฎหมาย



"สมเด็จพระสังฆราชได้เคยปรารภแล้ว แต่ไม่มีการปฏิบัติตาม และ มส.ได้มอบให้ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ช่วยประสาน แต่ไม่มีการปฏิบัติตาม เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ออกคำสั่ง ไม่ให้พระชุมนุมที่ตลาดกลางและตลาดไทก็ยังไม่ปฏิบัติตาม แสดงให้เห็นว่า มาตรการทางปกครองใช้แล้วไม่ได้ผล" นี่...รองนายกฯ วิษณุคงเหลืออด.......ฟ้องแหลก-แจกแจง เรื่องที่จะไปรายงานให้ มส.ทราบวันพรุ่งนี้ ชนิดเป็นรายตัว เอ๊ย...รายองค์ และยัง "แจงละเอียด" ด้วยว่า พระสังฆาธิการที่ใกล้กับวัดมากที่สุด คือเจ้าอาวาส ให้เป็นผู้สั่งและห้ามปราม มีการตั้ง "พระทัตตชีโว" รองเจ้าอาวาส มารักษาการก็สละตำแหน่ง มีการตั้ง "พระวิเทศภาวนาธรรม" ผู้ช่วยเจ้าอาวาส มารักษาการต่อ ซึ่งคำถามก็คือ ท่านได้แสดงบทบาทอะไรบ้าง? ก็ขอรบกวนนมัสการ เพราะเราอยากให้ท่านใช้อำนาจในฐานะ "รักษาการเจ้าอาวาส" เพราะพระที่ออกมาเคลื่อนไหวคือ "พระลูกวัด" มาตรการที่ ๓ คือมาตรการทางพระธรรมวินัย ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มีกฎหมายลูกที่ใช้ดูแลพระหลายฉบับ ที่สำคัญคือ กฎว่าด้วยการลงนิคหกรรมฉบับที่ ๑๑ และกฎว่าด้วยการดำเนินการกับพระภิกษุฉบับที่ ๒๑ ที่ระบุว่า........."เมื่อมีเรื่องให้ร้องเรียน และให้เจ้าอาวาสเรียกมาตักเตือน ถ้าไม่ฟังให้รายงานในระดับที่สูงขึ้นไป จนถึงขั้นสุดท้าย จะมีกระบวนการหนึ่งและสั่งให้สึก"



ทราบว่า ขณะนี้สำนักพุทธได้ร้องเรียนกับ "พระผู้ใหญ่" ไปแล้ว เพื่อให้รับทราบ เรื่องการขอให้นำเข้าสู่กระบวนทางพระธรรมวินัย ที่ผ่านมา "เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี" ทำอะไรไปมาก สื่ออาจไม่รู้ แต่รัฐบาลรู้หมด วันที่ ๑๐ มีนาจะมีการกราบนมัสการทาง มส.ว่ายังมีช่องทางอื่นอีกหรือไม่? อ่านตามนี้ ชักเห็นรำไรๆ ว่านอกจากถอดสมณศักดิ์ธัมมชโยแล้ว "เงาในเงา" ธัมมชโย ที่ชื่อ "ทัตตชีโว" ในสมณศักดิ์ที่ครอง "พระราชภาวนาจารย์" ก็คงอีกไม่นาน!?



ควรต้องทราบแบบแผนการปกครองของพระไว้นิด วัดพระธรรมกาย อยู่ในเขตอำเภอคลองหลวง ปทุมธานีกรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ อยู่ในเขตปกครองสงฆ์ ภาค ๑ ลำดับชั้นปกครอง เป็นชั้นๆ ดังนี้"เจ้าคณะใหญ่หนกลาง "เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล "สมเด็จพระพุทธชินวงศ์" วัดพิชยญาติฯ หนึ่งใน มส.เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เทียบเท่ากับ "ผู้บัญชาการภาค" หรือแม่ทัพภาค เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทางการปกครองสงฆ์ในภาคนี้ มีเงินเดือนด้วยนะ ตกเดือนละประมาณ ๒๓,๙๐๐ บาท รองลงมา ก็ "เจ้าคณะภาค ๑" พระเทพสุธี วัดชนะสงคราม เทียบเท่า "ผู้บังคับการ" รองจากเจ้าคณะภาคก็ "เจ้าคณะจังหวัด" พระเทพรัตนสุธี วัดเขียนเขต เป็นเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เทียบเท่าผู้ว่าฯ พระครูมงคลกิจจารักษ์ วัดมงคลพุการาม เป็นเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เทียบเท่านายอำเภอ และ "พระครูวิจิตรอาภากร" วัดสว่างภพ เป็นเจ้าคณะตำบลคลองสี่ เทียบเท่าผู้ใหญ่บ้าน อันวัดพระธรรมกาย เป็นลูกบ้านที่ต้องดูแล



นี่...วัดพระธรรมกายอยู่ภายใต้โครงสร้างปกครองสงฆ์ดังนี้ เหตุที่ผมยกมา ก็สืบเนื่องจากที่ท่านรองฯ วิษณุแจงแกมประจานข้างต้นนั่นแหละที่ว่า......."สมเด็จพระสังฆราชได้เคยปรารภแล้ว แต่ไม่มีการปฏิบัติตาม และ มส.ได้มอบให้ 'เจ้าคณะใหญ่หนกลาง' ช่วยประสาน แต่ไม่มีการปฏิบัติตาม 'เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี' ออกคำสั่ง ไม่ให้พระชุมนุมที่ตลาดกลางและตลาดไทก็ยังไม่ปฏิบัติตาม แสดงให้เห็นว่า มาตรการทางปกครองใช้แล้วไม่ได้ผล..........ฯลฯ......"



คือ ๔-๕ ระดับชั้นปกครองในภาค ๑ ทั้งที่ "สมเด็จพระสังฆราช" ทรงปรารภ และมอบหมายให้จัดการเรื่องนี้ ก็มีแต่ "เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ" กับเจ้าคณะอำเภอ-ตำบล และพระวินยาธิการ เท่านั้น ได้ทำหน้าที่แข็งขันดังปรากฏ แต่ก็ไม่อยู่ในสายตาที่พวกผีบุญธรรมกายจะเชื่อฟัง! คำถามที่เกิดขึ้น จากคำแจกแจงของ ดร.วิษณุก็คือ.......... แล้วท่าน "เจ้าคณะใหญ่หนกลาง" สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กับ "เจ้าคณะภาค ๑" พระเทพสุธี ท่าน (หายเงียบ) ไปไหน? จึงไม่ปรากฏ "บทบาท-หน้าที่" ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาเถรสมาคม ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทางปกครองคณะสงฆ์ในเขตนี้ อันมีวัดพระธรรมกายตั้งอยู่? ก็ขนาด มส.-พศ.-รัฐบาล พวกลัทธิจานบินยังไม่สน แล้วลำพังเจ้าคณะจังหวัด-อำเภอ-ตำบล อันเป็นปลายแถว มีหรือที่พวกผีบุญจะให้ราคา ยังไงๆ มันก็ต้องได้ใจและเหิมเกริม ด้วยคิดเอาเองว่า.... "เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กับเจ้าคณะภาค อยู่ข้างเราพวกเราโว้ย"! การณ์เป็นดังนี้ ...........จึงสรุปตามที่ ดร.วิษณุระบายความอัดอั้นออกมาว่า "เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ออกคำสั่งไม่ให้พระชุมนุมที่ตลาดกลางและตลาดไทก็ยังไม่ปฏิบัติตาม แสดงให้เห็นว่า มาตรการทางปกครองใช้แล้วไม่ได้ผล"



ไม่ได้ผล เพราะเล็กๆ ทำ แต่ใหญ่ๆ ไม่ เมื่อเป็นดังนี้........มหาเถรสมาคม ก็โปรดวินิจฉัยตามพระธรรมวินัยและ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แล้วบัญชาเถิดว่า การละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ การกระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายบ้านเมืองและต่อการปกครองคณะสงฆ์ ของพระไชยบูลย์ สุทธิผล กับแก๊ง เข้าข่าย "กบฏในราชอาณาจักร" ขนาดนี้แล้ว........



จะปล่อยไว้เป็น "ด้วง-เพลี้ย" แผ่นดินต่อไปได้อย่างไร?






ข้อมูล สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์(http://www.thaipost.net/)


เครดิต :

Cr:http://tnews.teenee.com/

loading...

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Flickr Images